วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

หัวข้อวิจัย จินตนาการแห่งทศวรรษ

๒๒ มกราคม ๒๕๕๓
ชื่อโครงการ จินตนาการแห่งทศวรรษในการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์เพื่อการเปลี่ยนแปลง และการบ่มเพาะจิตวิญญาณที่เป็นอิสระ ของ เสาวนีย์ สังขาระ

ผู้ดำเนินโครงการ เสาวนีย์ สังขาระ

เกริ่นนำความเป็นมาและความสำคัญของโครงการ
ตั้งแต่วันแรกที่เข้าสู่สถาบันอาศรมศิลป์ ความตั้งมั่นที่เข้าไปที่สถาบันเพื่อสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้หนึ่ง และสอง คือย่อยประสบการณ์การเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ของตนเองในรอบทศวรรษ วันสอบสัมภาษณ์ การจับหัวข้อพูดฉับพลัน ที่ฉันได้เกี่ยวกับการเรียนรู้ที่ต้องทันสมัย ใฝ่หาเรียนรู้ให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา ในวันนั้นฉันจำได้ว่า ได้เชื่อตามคำนั้นไปประมาณหนึ่งนาทีครึ่ง และหันกลับมาย้อนถามว่าเราเชื่ออย่างนั้นจริงๆ หรือ
เมื่อถอยกลับมาใคร่ครวญ ตั้งคำถาม ฉันบอกว่าไม่เชื่อเช่นนั้น การเรียนรู้สำหรับฉัน ไม่ใช่การที่ต้องใฝ่ไป ใฝ่หา หากเป็นการสำรวจย้อนการกลับมาสำรวจตัวตนที่ฉันผ่านประสบการณ์จริงในเรื่องต่างๆ ในรอบทศวรรษที่ผ่านมา เป็นวัตถุดิบ เป็นต้นทุน เป็นเสียงอื้ออึง เป็นขุมทรัพย์ที่อยู่ในตัวในตน มีเรื่องราวที่น่าจะนำมาเรียบเรียง เรียนรู้ เพื่อการรู้จักเข้าใจในตัวเอง และโลก เท่านั้นมิใช่หรือ ที่เราเกิดมาเพื่อ …
ห้องเรียนปริญญาโท คณะศึกษาศาสตร์ ภาคสาขาการบริหารการศึกษา หนึ่งภาคการศึกษาที่ผ่านมา ฉันบันทึกการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรงจากการเรียนรู้แลกเปลี่ยนในห้องเรียนทุกสัปดาห์ และยังอีกบันทึกประจำวัน การเรียนในห้องเรียน กับการเรียนรู้ในชีวิตทุกๆ วันของฉันเป็นเรื่องที่สัมพันธ์กัน เป็นหนึ่งเดียวกัน ฉันเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตลอดเวลา ฉันตั้งใจบันทึกให้เป็นหนังสือ ชื่อว่า “Freedom in My Master Degree - การบ้าน ป.โท” การย้อนกลับไปดูบันทึกการเรียนรู้ทุกสัปดาห์ของฉัน โดยเฉพาะจากบทความสุดท้าย ประสบการณ์การปลีกวิเวก วิชาธรรมชาติวิจักขณ์ ( Vision Quest ) ทำให้ฉันแจ่มชัดว่าโครงการการวิจัยและวิทยานิพนธ์ของฉันควรจะเป็นเรื่องอะไร
“ฉันมีพันธะที่จะต้องย้อนกลับไปมองสำรวจตัวเองในรอบทศวรรษแห่งการโชกโชน เก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่างๆ มากมาย เพื่อเรียนรู้ว่าข้อจำกัดเก่าๆ ของตัวเองนั้นอยู่ตรงไหน ศรัทธา ความเชื่อเรื่องใดที่มันยังเป็นเช่นนั้นและยังคงเป็นเช่นนี้อยู่ในปัจจุบัน ความคิด จิตใจเกี่ยวกับโลก ตัวเอง สังคม ชีวิตคืออะไร เรารู้จักเข้าใจในตัวเองมากแค่ไหน และเส้นทางแห่งการบ่มเพาะ ค้นพบจิตวิญญาณของตัวเองดำเนินไปอย่างไร”
การเข้าป่าปลีกวิเวก เพียงวิชาหนึ่งอาจเป็นเพียงจุดกระตุ้น จุดขยับ หรือจุดเปลี่ยน
ฉันยังเขียนไว้ในบทความแววตาเด็กเป็นประกาย ศรัทธาในหัวใจของเขากลับมาอีกครั้ง จิตวิญญาณความเป็นครูก็ได้เติบโตและทำงานอย่างสุดฤทธิ์สุดเดช
ในบทความนั้นฉันถามอาจารย์ประภาภัทรว่า จิตวิญญาณความเป็นครูคืออะไร จิตวิญญาณที่เป็นอิสระ ไม่ต้องพึ่งพาสติปัญญาของคนอื่น และฉันถามอาจารย์ว่า ทำไมคนบางคนจึงบ่มเพาะจิตวิญญาณที่เป็นอิสระกับอีกคนไม่ คำตอบคือต้องเจอทุกข์เข้ามาชนชีวิตจังๆ หรือพระมหาโอ๊ตบอกว่า คนเราจะเข้าหาธรรมะ เมื่อ เพราะเห็นภัย เห็นความกลัว เห็นทุกข์
แต่ท่านเจ้าคุณบอกว่า เราอยู่ในยุคสมัยที่เจริญมากแล้ว ไม่ต้องรอให้ทุกข์มาบีบ ให้เราใช้ปรัชญานำทาง เช่นอาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์ สร้างวิธีบ่มเพาะจิตวิญญาณที่เป็นอิสระของตัวเองด้วยการเดินไปสู่อิสรภาพ
ของขวัญปีใหม่ที่ฉันได้ต้นปีนี้ คือ ความไม่สบายยาวนานสองอาทิตย์ อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ฉันเป็นคนแรงมาก แข็งแรงมาก ไม่เคยเจ็บป่วย แต่การป่วยครั้งนี้เป็นการป่วยที่ร่างกายฉันเรียกร้อง และขอร้องให้ฉันหยุด นิ่งต่างหาก สาเหตุของโรคฉันวินิจฉัยด้วยตัวเองได้ว่า ธาตุลมแตกซ่าน
ขณะที่ไม่สบาย ฉันนึกถึงแต่คำพระว่า ชีวิตเป็นอนิจจัง ไม่เที่ยง ชีวิตเล่นตลกกับฉันมาก และไม่เที่ยงมาก ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ในหลายๆ เหตุการณ์ ยกตัวอย่างเหตุการณ์การเรื่องงานทำวารสารแนวพุทธกับสถาบัน คุยไปคุยมาฉันได้งานประจำเป็น บรรณาธิการใหญ่ เงินเดือนสามหมื่นบาท สามปี ฉันตื่นเต้นกับจำนวนเงินว่าจะเอาไปใช้ที่ไหน คำนวณไปแล้วว่าจะไปแบ่งให้รุ่นน้องเท่าไหร่ ใช้หนี้จ่ายค่าที่ จ่ายค่าเทอม ส่งไปให้เด็กๆที่สังข-ละเท่าไร เอาไว้ทำโรงเรียนห้วยหิ่งห้อยเท่าไร แต่ก็ไม่แน่ใจไม่รู้จักใจตัวเองทั้งร้อย จนคณาจารย์สังเกตได้ และเรียกไปคุย ฉันก็ยังไม่ได้ให้คำตอบที่แน่ใจกับอาจารย์ เพราะฉันเองก็ยังไม่เห็นใจตัวเองที่แน่ชัด แต่ว่าพยายามทำใจให้ไปด้วยกัน แต่ว่ามีแผนการให้อาจารย์ชัด ไปดูบ้านเช่าใกล้ๆ สถาบันเพื่อตัดปัญหาทีละเรื่องแล้วลองดูใจว่าจะรู้สึกอย่างไร เห็นบ้านเช่าก็น่าจะพออยู่ได้ เอาน่ะ ลองดู แต่สองวันต่อมาโครงการเปลี่ยน กองบรรณาธิการกลางสลายไป ไม่ต้องทำงานประจำ ฉันยิ้ม รู้สึกว่าร่างกายเบาโล่ง เหมือนมีปีกบินได้ เหมือนได้เป็นอิสระอีกครั้งหนึ่ง
และเหตุการณ์ในความสัมพันธ์ ที่ฉันกลับไปสังขละคราวนี้ ฉันเห็นสิ่งต่างๆ เปลี่ยนไปทั้งกับบุคคล สถานที่ ความโกรธ ความเจ็บ ความรู้สึกผิด เปลี่ยนเป็นความเข้าใจ เห็นสภาพตามที่มันเป็น ยอมรับเงื่อนไข ปัจจัยต่างๆ ได้ตามที่มันควรจะเป็น ไม่ยื้อ ไม่รั้ง ปล่อยวางได้ เมื่อปล่อยวางได้จริงๆ Let go ได้จริงๆ ฉันพบจับจิตวิญญาณที่เป็นอิสระของตัวเอง เห็นธรรมชาติของตัวเอง มโนภาพชีวิตที่ควรจะเป็นและฉันฝันใฝ่ แจ่มชัด
ฉันพบบ้านในใจของตัวเอง พบเส้นทางบ่มเพาะทางจิตวิญญาณที่เป็นอิสระของตัวเอง
ฉันค้นพบว่า ฉันต้องการเวลาที่จะนิ่ง ฉันควรที่จะหยุดชั่วขณะ ที่จะเรียนรู้จากข้างนอก และกลับมาเรียนรู้ สำรวจประสบการณ์การเรียนรู้จากชีวิต จินตนาการจริงๆ ของฉันในรอบทศวรรษ มันมากมายเกินคณานับและเรียบเรียงร้อยผ่านประสบการณ์ ออกมาเป็นถ้อยคำ เป็นตัวหนังสือ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และที่สำคัญ คือการเรียนรู้จักและเข้าใจในตัวเอง
ฉันยังตระหนักอีกว่า หากฉันจะเดินไปบนเส้นทางบ่มเพาะจิตวิญญาณอันอิสระของตัวเองแล้ว ฉันต้องเลือกเดินเส้นทางที่ฉันเชื่อและจินตนาการมันได้อย่างแจ่มชัด และมีปรัชญานำทาง ฉันไม่คิดว่าจะต้องเกิดอีกแล้ว และเชื่ออย่างสนิทใจว่าโลกนี้ดับสิ้นแน่ในวันหนึ่งไม่นาน ฉันอาจได้อยู่เห็น และตั้งปณิธานว่าสามปีข้างหน้านี้จะเรียนรู้และทำการศึกษาเพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้คนเราบ่มเพาะจิตวิญญาณที่เป็นอิสระ และตระหนักรักษาความสวยงามและขุมทรัพย์ที่โลกอันสวยงามที่เราอาศัยอยู่เพื่อเรียนรู้จักเข้าใจในตัวเองได้อย่างมีสันติสุข
ฉันต้องการบ่มเพาะความลุ่มลึกในประสบการณ์ของตัวเองในรอบทศวรรษ ด้วยการเรียบเรียงประสบการณ์จริงช่วงทศวรรษที่ผ่านมาของชีวิตฉัน พร้อมๆ กับการสร้างพื้นที่และชุมชนแห่งการเรียนรู้อย่างที่ตัวเองใฝ่ฝันมากว่าสิบปี วันนี้แจ่มชัด เพียงสองมือของฉันที่จะสร้าง ปั้นดินเป็นบ้าน ขุดดินปลูกอาหารของตัวเอง ถักทอเสื้อผ้าฝ้ายใส่เอง ผลิตยาสมุนไพร ทำโรงเรียนเอง มีครอบครัวกัลยาณมิตร มีเวลาคิด เขียนเรียงร้อยประสบการณ์เป็นตัวหนังสือ งานสร้างสรรค์ เพื่อถ่ายทอด แลกเปลี่ยน สื่อสารเรื่องราวประสบการณ์ชีวิตจริงของชีวิตเล็กๆ ชีวิตหนึ่งที่มีจินตนาการและความฝันที่สวยงาม
เพียงเท่านี้ ฉันนับว่าฉันจบปริญญาชีวิตทุกใบที่ทุกสถาบันจะให้ได้ และฉันเกิดเพียงชาตินี้ก็เพียงพอ.



โครงการปฏิบัติการ
โครงการถอดความรู้การเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ ในรอบทศวรรษของผู้ดำเนินการวิจัย ออกมาเป็นหนังสือ จินตนาการแห่งทศวรรษ ของเสาวนีย์ สังขาระ

วัตถุประสงค์ของโครงการ
๑. เพื่อศึกษาภูมิหลัง แรงบันดาลใจ พัฒนาการและประสบการณ์ผู้ที่ผ่านประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงของผู้เขียนเองในรอบทศวรรษทั้งในเรื่องการจัดการศึกษาทางเลือก ความรักความสัมพันธ์ การทำงานเรื่องการสร้างชุมชนพึ่งตนเอง โดยการสำรวจการบ่มเพาะทางจิตวิญญาณที่เป็นอิสระส่งผลต่อการเลือกเดินชีวิตที่เลือกอย่างไรต่อไป
๒. รวบรวมแต่งความรู้ใหม่ที่ได้ตรงจากการผ่านประสบการณ์ของผู้ดำเนินโครงการ ออกมาเป็นหนังสือใน สามหมวดหมู่ ดังนี้ การศึกษาทางเลือก ความรักความสัมพันธ์ การทำงานการสร้างชุมชนพึ่งตนเอง

ระยะเวลาการโครงการและแผนการดำเนินงาน
กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ - พฤษภาคม ๒๕๕๓ ( ทำงานเขียนอย่างน้อยวันละ ๔ ชั่วโมง )

วิธีการดำเนินการวิจัย
งานวิทยานิพนธ์จินตนาการแห่งทศวรรษ ของเสาวนีย์ สังขาระ มุ่งศึกษา ถอดประสบการณ์ แรงบันดาลใจ ภูมิหลัง วัยเยาว์ วัยสั่งสมประสบการณ์ บริบทภายนอกภายใน เหตุการณ์ เรื่องราว ผลงานต่าง ที่ทำให้ผู้เรียนเกิดการเปลี่ยนแปลงตัวเองทั้งในทางทรรศนะคติ และพฤติกรรม รวมทั้งคนรอบข้าง สังคม โดยการสัมภาษณ์ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถอดประสบการณ์การเรียนรู้ส่วนบุคคลและการงานของผู้วิจัยเอง และกลุ่มประชากร กรณีศึกษาที่เกี่ยวข้อง

ขอบเขตของการวิจัย
การวิจัยนี้ศึกษา ภูมิหลัง ปัจจัย เหตุการณ์ เรื่องราว ของผู้ที่ผ่านประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลง จากการพิจารณา ทบทวน สรุปบทเรียน ประสบการณ์ชีวิต ด้วยระดับหัวใจผ่านอารมณ์ ความรู้สึกทำให้เกิดปัญญา ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงตัวเอง และการทำงานอย่างไร

กรอบแนวคิดในการวิจัย
ปัจจัย ภูมิหลัง แรงบันดาลใจ เรื่องราว วัยเยาว์ วัยสั่งสมประสบการณ์ บริบทภายนอก พัฒนาการของผลงาน
เหตุการณ์ เอกลักษณ์ในการสร้างงาน

ขั้นตอนการดำเนินงาน
๑. รวบรวมข้อมูล สรุปเส้นทางผลงาน ปัจจัยที่ส่งผลต่อจินตนาการ ความคิด ในการเลือกใช้ชีวิตผ่านประสบการณ์ของผู้เขียนในรอบทศวรรษจากบันทึกการทำงาน พูดคุยสัมภาษณ์บุคคลที่เกี่ยวข้อง ถ่ายทอดออกมาเป็นหนังสือ

แผนการดำเนินงาน
รวบรวมข้อมูล สรุปเส้นทางผลงาน ปัจจัยที่ส่งผลต่อจินตนาการ ความคิด ในการเลือกใช้ชีวิตผ่านประสบการณ์ของผู้เขียนในรอบทศวรรษจากบันทึกการทำงาน พูดคุยสัมภาษณ์บุคคลที่เกี่ยวข้อง ถ่ายทอดออกมาเป็นหนังสือในเรื่องการจัดการศึกษาทางเลือก ความรักความสัมพันธ์ การทำงานเรื่องการสร้างชุมชนพึ่งตนเอง โดยการสำรวจการบ่มเพาะทางจิตวิญญาณที่เป็นอิสระส่งผลต่อการเลือกเดินชีวิตที่เลือกอย่างไรต่อไป

ผลที่คาดว่าจะได้รับ
หนังสือถ่ายทอดประสบการณ์สามชุด ในเรื่องการจัดการศึกษาทางเลือก ความรักความสัมพันธ์ การทำงานเรื่องการสร้างชุมชนพึ่งตนเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น